Sunday, October 31, 2010

ทำอย่างไรไม่ให้มีงานค้างมากจนเกินไป

ปัญหาที่คนทำงานมักจะเจอคือทำงานไม่ทัน งานเยอะกว่าเวลาที่มีอยู่ หรือไม่ก็มีงานเยอะเป็นช่วงๆ แน่นอนว่าการเป็นลูกจ้าง เขาจ้างเรามาเป็นลูก ดังนั้น พ่อแม่(นายจ้าง) เขาคงจะไม่จ้างเรามานั่งว่างๆอยู่ที่ทำงานแน่นอน เขาจะพยายามหางานให้เท่ากับหรือมากกว่าที่จ่ายค่าจ้างให้เราอยู่แล้ว ดังนั้น การมีงานมากจึงไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ แต่ถ้าใครไม่มีงานให้ทำซิถือว่าเป็นเรื่องไม่ปกติ(เขาอาจจะบังคับให้เราลาออกโดยทางอ้อมก็ได้ หรือไม่ก็สะกัดกั้นการเติบโตของเราก็ได้)


ถ้าต้องการทำงานให้เสร็จทันเวลาหรือต้องการให้มีงานค้างน้อยที่สุดควรจะมีเทคนิคในการทำงานดังนี้
• จัดลำดับความสำคัญของงานทุกครั้งที่มีงานใหม่เข้ามา เพราะงานที่เรามีอยู่อาจจะสำคัญน้อยกว่า อาจจะเร่งด่วนน้อยกว่างานใหม่ที่เข้ามา ดังนั้น จึงต้องมาจัดลำดับในการทำงานกันใหม่ทุกครั้ง และควรจะแบ่งงานออกเป็น 4 กองหรือส่วนดังนี้
1. งานสำคัญมากและเร่งด่วนมาก
2. งานสำคัญมากแต่เร่งด่วนน้อย
3. งานสำคัญน้อยแต่เร่งด่วนมาก
4. งานสำคัญน้อยและเร่งด่วนน้อย
เมื่อจัดลำดับความสำคัญแล้ว ให้ลงมือทำงานโดยเริ่มทำจากงานกองที่ 1 ก่อน เมื่องานกองที่ 1 เสร็จแล้ว ค่อยทำกองที่ 2 ส่วนงานกองที่ 3 ควรจะมอบหมายให้ลูกน้องที่ทำงานเร็วทำ และงานกองที่ 4 อาจจะมอบหมายให้ลูกน้องหรือคนอื่นทำก็ได้ เพราะเสียหายหรือผิดพลาดขึ้นมาก็ไม่มีผลมากนัก เพราะเป็นงานที่สำคัญน้อย
• เลิกนิสัยผลัดวันประกันพรุ่ง เมื่อมีงานเข้ามาและมีเวลา จงรีบทำงานนั้นๆให้เสร็จก่อนทุกครั้ง อย่ารอ... อย่าคิดว่าจะทำ... อย่าพูดว่าเดี๋ยวค่อยทำ...อย่าคิดว่าทำแป๊บเดียวก็เสร็จ เพราะในระหว่างที่เรารีรออยู่นั้นอาจจะมีงานอื่นที่สำคัญและเร่งด่วนกว่าเข้ามาแทรก ทำให้เราไม่มีเวลาทำงานก่อนหน้านั้นเลยก็ได้ สุดท้ายก็จะกลายเป็นงานค้างงานคาหาเวลาสะสางไม่ได้
• อย่าขยายเวลาและสถานที่ทำงานเมื่อมีงานมาก ถ้าทุกครั้งที่เรามีงานมากทำไม่ทันแล้วเราทำงานเกินเวลา หรือนำงานกลับไปทำที่บ้าน รับรองได้ว่าการทำงานแบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อยขึ้นๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติ เพราะเรามักจะคิดว่าเรามีเวลาทำงานมากขึ้นมีสถานที่ทำงานเพิ่มขึ้น แม้ว่าบางช่วงงานไม่เยอะ แต่เราก็ยังติดอยู่กับการทำงานเกินเวลาและเอางานไปทำที่บ้าน ยิ่งจะทำให้การทำงานของเราขาดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น จงอย่าคิดว่าเวลาและสถานที่ทำงานที่ใช้เพิ่มขึ้นในช่วงที่มีงานเยอะเป็นมาตรฐานในการทำงาน
• จงอย่าอวดเก่งและหวงงาน คนทำงานส่วนใหญ่มักจะคิดว่าตัวเองเก่งที่สุดในการทำงานที่ตัวเองรับผิดชอบ และมักจะคิดว่าคนอื่นทำได้ไม่ดีเท่ากับตัวเอง คนบางคนไม่ยอมแม้จะมอบหมายงานตัวเองให้ลูกน้องช่วยทำ ถ้าเป็นเช่นนี้รับรองได้ว่าเราจะมีงานมากขึ้นๆตามระดับหน้าที่ความรับผิดชอบ เมื่อตำแหน่งสูงขึ้นงานใหม่ก็มา ส่วนงานเดิมก็ยังอยู่(เพราะไม่ยอมปล่อยให้ลูกน้อง) สุดท้ายก็เก็บไว้คนเดียว ใครที่อยากจะทำงานให้เสร็จทันเวลาและไม่มีงานค้าง ก็จงฝึกเปิดใจให้คนอื่นช่วยงาน ทำงานแทนตัวเองบ้าง และต้องยอมลำบากใจในช่วงแรกๆที่เขายังไม่เก่ง แต่ถ้ามองกันไกลๆแล้ว รับรองได้เลยว่าเราจะสบายขึ้นเยอะเมื่อลูกน้องของเราเก่งขึ้น งานบางงานไม่จำเป็นต้องมอบหมายให้ลูกน้องทำเสมอไป อาจจะให้คนในหน่วยงานอื่น อาจจะให้บุคคลภายนอกทำให้ก็ได้
สรุป ถ้าไม่ต้องการเป็นคนบ้างานประเภทบ้าหอบฟาง(งาน)กลับบ้าน ก็ต้องพยายามหาหนทางลดงานหรือเร่งทำงานให้เสร็จเร็วขึ้น จะด้วยวิธีการใดก็ตาม เพราะถ้าเรายิ่งทำงานไม่เสร็จหรือมีงานค้างอยู่บ่อยๆ นอกจากจะเป็นผลเสียต่อผลงานของเราแล้ว ยังจะนำไปสู่นิสัยเสียอีกด้วยนะครับ เพราะฉะนั้น ใครที่เป็นแบบนี้อยู่จงรีบแก้ไขด่วนครับ
ที่มา
http://www.peoplevalue.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539104768&Ntype=10

No comments: